top of page

ชีวิตติดทะเลไปกับต๊ะแห่ง Surfer’s Holiday



จากหนุ่มพังงาที่จากบ้านเกิดไปเรียนถึงกรุงเทพฯ และออกเดินทางไปทั่วโลก กลับมาสู่บ้านเกิด มาทำธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานที่เขารักที่สุด หนึ่งในหลากหลายงานประจำวันของเขา คือ เจ้าของเพจ Surfer’s Holiday เพจบีชไลฟ์สไตล์ที่เป็นจุดรวมตัวของเหล่านักโต้คลื่น นักดำน้ำ และเหล่าผู้รักทะเล หาดทราย สายลม และแสงแดดทั้งหลาย ซึ่งเป็นที่ที่ ต๊ะ ทวิโรจน์ เอี๋ยวพานิช แชร์ทั้งตัวตน แรงบันดาลใจ และสร้างครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งขึ้น

รู้จักทั้ง Surfer’s Holiday และตัวตนของต๊ะที่เต็มเปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งทะเลไปกับ G Village Co-creation hub ค่ะ

งานของ SURFER’S HOLIDAY ครอบคลุมอะไรบ้าง


ส่วนมากงานของ Surfer’s Holiday เกี่ยวกับบีชไลฟ์สไตล์ เกี่ยวกับทะเล แต่เราจะโฟกัสไปที่การโต้คลื่นที่ผมทำมาตลอด 5 ปี นอกจากนั้นก็จะมีเรื่องราวของการดำน้ำ ทริปทะเลต่างๆ และอีกอย่างที่ผมเองชอบมากๆ ก็คือพวกดีไซน์โฮเทลที่อยู่ใกล้ทะเล

จุดเริ่มต้นของ SURFER’S HOLIDAY คืออะไร


จุดเริ่มต้นของ Surfer’s Holiday คือตอนแรกผมมีอีกเพจหนึ่งก่อนหน้านี้ที่ชื่อว่า ซุกหัวนอน เพราะว่าตัวเองทำธุรกิจเกี่ยวกับโฮสเทล ชอบเดินทางไปที่ต่างๆ ไปนอนโฮสเทล ตอนนั้นสมมติว่าผมไปญี่ปุ่น 7 วันก็จะนอน 7 โฮสเทล ถ้าไปสิงคโปร์ 5 วันก็จะนอน 5 โฮสเทล ก็เลยเกิดโปรเจคนี้ขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับที่ซุกหัวนอนที่มีเสน่ห์แตกต่างกัน แต่ว่าสุดท้ายแล้วเรารู้สึกว่าการเดินทางแบบนั้นมันเหนื่อยเกินไป เราต้องออกไปเที่ยวตลอดเวลา ในทางหนึ่งมันก็คือ การฝืนตัวเอง



นอกจากนั้นคิดอีกอย่างก็คือ ผมอยู่ใกล้ทะเลอยู่แล้ว ออกไปดำน้ำทุกวัน ออกไปโต้คลื่นทุกวัน ทำไมเราไม่นำเสนอมันในรูปแบบที่เป็นตัวของเราเอง จนเกิดมาเป็น Surfer’s Holiday ที่แปลตรงตัวว่า วันหยุดของนักโต้คลื่น เพราะเมืองไทยโต้คลื่นได้ปีละ 6 เดือน อีก 6 เดือนก็จะเข้าสู่หน้าของการดำน้ำ เราก็จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำตลอดทั้งปี และมีคอนเทนต์ออกมาอย่างสม่ำเสมอให้คนได้อ่าน แล้วก็เป็นเวลา 3 ปีแล้วกับการทำเพจนี้

ชีวิตเปลี่ยนไปไหม หลังจากการทำเพจ


ก็เปลี่ยนอยู่ครับ จริงๆ การเป็นบล็อกเกอร์ดีตรงที่เรามีพื้นที่ในการแชร์แรงบันดาลใจได้มากยิ่งขึ้น และทำให้เรามีโอกาสได้ออกไปเที่ยวมากขึ้น ปัจจุบันบล็อกเกอร์อาจจะต้องมีการออกคอนเทนต์ที่ค่อนข้างถี่ด้วยการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงรวมเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเฟสบุ๊ค ทำให้เราต้องแข่งขันกันพัฒนาคอนเทนต์ให้ดี แล้วก็ทำความเข้าใจคนที่ติดตามเรา แล้วเสิร์ฟในสิ่งที่เขาต้องการ โดยยังคงความเป็นตัวเราเอาไว้อยู่

คนที่ติดตาม SURFER’S HOLIDAY ส่วนมากเป็นกลุ่มไหน


หลักๆ ก็คือคนชอบทะเลและกิจกรรมเอาท์ดอร์จำพวกโต้คลื่น ดำน้ำ และคนที่ชื่นชอบบีชไลฟ์สไตล์ หลายครั้งผมได้พบกับคนที่ติดตามผมในทะเล แล้วก็ได้พูดคุยกันว่าเขามาที่นี่เนื่องจากการติดตามผม กลายเป็นคนที่มาโต้คลื่นข้างๆ กัน



สาเหตุที่ทำให้ผูกพันกับทะเลเพราะเกิดที่พังงารึเปล่า


เพราะเกิดที่พังงาด้วย แล้วก็ทุกวันหยุดคุณพ่อคุณแม่จะพาผมไปเที่ยวทะเล ผมเองเคยรอดจากเหตุการณ์สึนามิมาด้วย แล้วผมก็รักอากาศ แสงแดด ต้นมะพร้าว โดยเฉพาะการโต้คลื่นที่เป็นความฝันตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ดังนั้นทุกวันนี้เองผมก็ได้อยู่กับสิ่งที่รัก อยู่กับการหายใจเข้าออกก็เป็นการโต้คลื่น

นึกชีวิตที่ต่อไปไม่มีทะเลออกไหม


ตาย ผมต้องตายแน่ๆ หดหู่มาก ยกตัวอย่างวันนี้เพื่อนๆ ผมไปเซิร์ฟกันที่อินโดนีเซีย แต่ตัวผมเองเกิดช่วงนี้ก็เลยต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวทำให้ไม่ได้ไปกับเพื่อนๆ แต่ทุกๆ 5 นาที ผมจะต้องเปิดดูอินสตาแกรน เปิดดูเฟสบุ๊ค เห็นเพื่อนๆ โต้คลื่นกันแล้วรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายเลยครับ (หัวเราะ) มันคลุ้มคลั่งมากๆ จริง

เซิร์ฟเหมาะกับใครบ้าง


เซิร์ฟเป็นกิจกรรมที่เริ่มต้นเล่นได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จนถึง 60 กว่า ก็ยังสามารถโต้คลื่นได้ทุกวันเลยครับ ทำให้ผมเองก็คิดว่าตัวเองจะอยู่กับทะเลไปอีกนานๆ มากๆ ครับ



จุดเด่นที่ทำให้ SURFER’S HOLIDAY แตกต่างกับเพจอื่นๆ ที่ทำทางด้านนี้


ผมคิดว่า Surfer’s Holiday คือการบอกเล่าเรื่องราวที่มันค่อนข้างจริง สิ่งที่ผมเขียนทุกอย่างมันเกิดจากความรู้สึกจริงๆ และทุกครั้งจะคัดเลือกสิ่งดีๆ มานำเสนอเสมอ แม้จะมีการสปอนเซอร์เข้ามา แต่ผมคิดเสมอว่าคนที่ติดตามผมอยู่ เขาติดตามเพราะความเชื่อใจ ความเชื่อมั่น ฉะนั้นเวลาที่ผมจำเป็นต้องรับงาน ผมก็จะเลือกอันที่ผมใช้จริง อันที่ผมรู้สึกจริงๆ หรืออันที่ผมชอบจริงๆ มานำเสนอ เวลาที่ไปรีวิวในที่ต่างๆ ผมก็จะพูดอย่างจริงใจทั้งในด้านที่ดี ว่าดีเพราะอะไร และไม่ดีเพราะอะไร เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม คือ ความเชื่อมั่นของคนที่ติดตามเรา

ส่วนสำคัญของการทำเพจหนึ่งขึ้นมา


สำหรับผมเองมันคือพื้นที่ในการแชร์แรงบันดาลใจมากกว่า ผมเองคิดว่าต่อให้วันหนึ่งไม่มีเพจผมแล้ว แต่ว่ามีคนที่เคยอ่านและได้แรงบันดาลใจ ผมรู้สึกดีทุกครั้งเวลาเจอใครซักคนที่เขาได้รับแรงบันดาลใจจากการทำงานของ Surfer’s Holiday มันคือการส่งต่อแพสชันที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตของใครหลายๆ คนให้เขาได้เจอสิ่งที่ชอบให้เขาได้มีความสุข อันนี้คือจุดประสงค์ของเพจผม ถ้าวันหนึ่งเพจผมหายไป ผมก็จะไม่เสียใจ เพราะผมเชื่อว่าผมได้แชร์ความรู้สึกได้ แชร์แรงบันดาลใจออกไปแล้วครับ

ทะเลกับการโต้คลื่นมีคุณค่าอย่างไรในใจ SURFER’S HOLIDAY


จริงๆ แล้วการโต้คลื่นมันก็คือกีฬาอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าเวลาที่ผมไปโต้คลื่น เหมือนกับผมได้อยู่กับตัวเอง ทิ้งเรื่อง ทิ้งมือถือ ทิ้งปัญหาทุกอย่างไว้บนฝั่ง โฟกัสอยู่กับทะเล อยู่กับการว่ายน้ำ การจับคลื่นให้ได้ การจับคลื่นได้มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเราปั่นจักรยาน 2 ล้อได้ครั้งแรกในชีวิต แล้วรู้สึกอย่างนั้นทุกๆ 5 นาที ยิ่งกว่านั้นการที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ อยู่กับเพื่อนๆ ได้เบรกทุกอย่างลง และทำให้เรารู้สึกว่าการได้ใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้มันช่างโชคดีเหลือเกิน

นอกจากนั้นการโต้คลื่นมันเป็นปรัชญาอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่การฝืนธรรมชาติไม่ใช่การต่อต้าน แต่มันคือการเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ มันอาจจะยาก แต่มันอยู่ที่ทัศนคติในการเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันให้ได้ครับ



3 ทะเลที่ต้องไปในชีวิตนี้


ที่แรกมันต้องเป็นบาหลีอยู่แล้วครับ เพราะว่าบาหลีเป็นเมืองที่ผมชอบมากๆ ทะเลเขาไม่ได้สวยมากมายไปกว่าเรา แต่ว่าคลื่นมันดี ผู้คนกับการใช้ชีวิตที่รีแล็กซ์มันทำให้บีชไวฟ์ของที่นั่นดีมากจริงๆ ส่วนอันดับที่ 2 ผมเลือกพิงก์บีช เกาะโคโมโด ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหาดทรายสีชมพู ผมพึ่งไปมาไม่นาน มันสวยมากๆ และผมประทับใจจริงๆ ส่วนที่ที่ 3 ผมชอบหาดกะตะที่จังหวัดภูเก็ต เพราะว่าเป็นหาดที่เหมาะกับการโต้คลื่น ผู้คนรอบข้างก็สนุกสนาน เป็นจุดนัดพบที่ดีนักโต้คลื่นครับ

วางแผนอนาคตของ SURFER’S HOLIDAY ไว้อย่างไรบ้าง


นอกจากการเป็นบล็อกเกอร์แล้ว ผมเองก็ทำอีกหลายกิจกรรมที่ขับเคลื่อนกิจกรรมโต้คลื่นในประเทศไทย ทั้งการทำเซิร์ฟแคมป์ การจัดการแข่งขันโต้คลื่น การสอนโต้คลื่น ผมมองว่าจริงๆ แล้วนอกเหนือจากการเป็นบล็อกเกอร์ ผมเองก็อยากจะทำกิจกรรมตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันก็เกิดเป็นคอมมูนิตี้ เกิดกลุ่มเพื่อนๆ ที่มันจริงมันเรียลขึ้นมา มันเหมือนเป็นการสร้างครอบครัวให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ตัวเพจเองก็ยังจะทำต่อไปเรื่อยๆ ถ้ายังทำไหว

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page