top of page

มากกว่าแค่ Influence แต่คือ Inspire กับ “มาลิน @malinmln”



ท่ามกลางอินฟลูแอนเซอร์มากมายในยุคปัจจุบัน ยังมีสาวน้อยเปรี้ยวเท่ที่เริ่มต้นเส้นทางสายนี้ด้วยการแค่เป็นตัวของตัวเอง “มาลิน แซ่ลิ้ม” หรือ “หลิน” บัณฑิตหมาดๆ จากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ภาคอินเตอร์ คืออินฟลูแอนเซอร์ บิวตี้บล็อกเกอร์ และนางแบบขวัญใจวัยนักเรียนนักศึกษาที่วันนี้ Gvillage co-creation hub จะพามารู้จักว่าเบื้องหลังการทำงานของเธอคนนี้เป็นอย่างไร

ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่บ้าง


หลินทำหลายอย่างทั้งรับถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา แล้วก็เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ แต่ถ้าสิ่งที่เป็นงานหลักที่สุด น่าจะเป็นไมโครอินฟลูแอนเซอร์ในอินสตาแกรมและเฟสบุ๊คค่ะ

เริ่มต้นทำงานสายบล็อกเกอร์และอินฟลูแอนเซอร์ได้ยังไง


เริ่มจากการถ่ายชีวิตประจำวันทั่วไปของตัวเองลงอินสตาแกรม ตอนช่วงแรกๆ เราทำสีผมหลายสี ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีคนทำผมสีเทาในไทยเท่าไร ทำให้มีคนสนใจเราเยอะ จำนวนผู้ติดตามของหลินก็เลยค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วงานต่างๆ ก็เริ่มเข้ามาหาเรา ทั้งงานที่สปอนเซอร์ส่งมาให้แล้วก็งานอื่นๆ ด้วย ถ้าจะนับเวลาจริงๆ ก็น่าจะทำงานในสายนี้มาได้ปีกว่าแล้ว



แล้วงานบล็อกเกอร์ล่ะ

ส่วนเรื่องบล็อกเกอร์ที่เริ่มมาทำก็เพราะเวลาเราแต่งหน้าคนก็จะมาบอกว่า สอนแต่งหน้าหน่อย อันนี้ใช้อะไรแต่งบ้าง ทำลงยูทูปหน่อยสิ จากตอนนั้นเราก็เลยเริ่มมาสนใจที่จะทำในส่วนของยูทูปด้วย แต่ถ้าถามว่าชอบอะไรมากกว่า หลินชอบการเป็นอิลฟลูแอนเซอร์มากกว่า เพราะมันได้แสดงด้านอื่นๆ ของชีวิตเราด้วย คนดูส่วนมากเขามักจะหวังให้บิวตี้บล็อกเกอร์ต้องแต่งหน้า แนะนำสกินแคร์ให้เขาได้ แต่เราเองเราไม่ได้แค่แต่งหน้าในชีวิตประจำวันอย่างเดียว บางทีเราก็ชอบที่จะหน้าสดแต่แต่งตัวดีๆ ได้ออกไปเที่ยว ออกไปกิน รวมไลฟ์สไตล์หลายๆ แบบเข้าด้วยกัน เราชอบที่จะโชว์หลายๆ ด้านที่เป็นตัวเรามากกว่า

ประทับใจอะไรในสายงานนี้

บางครั้งมันก็เหนื่อยก็เบื่อ แต่ในขณะเดียวกันมันก็สนุก เพราะเราเองก็ได้สร้างสรรค์ทั้งคอนเทนต์ของตัวเอง รวมถึงคอนเทนต์ที่ทำกับแบรนด์ต่างๆ ด้วย บางครั้งแบรนด์ที่เราได้รับโจทย์มาอาจจะมีคาแรคเตอร์ที่ไม่ตรงกับที่เราเป็น แต่เราก็ได้ลองคิดหามุมมองใหม่ๆ ที่มันท้าทายตัวเราเองว่าจะทำยังไงให้แบรนด์สามารถปรับเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราได้ด้วย โดยที่เราก็ต้องคงความเป็นตัวของตัวเองไว้ เพราะคนที่เขาติดตามเราเขาติดตามเราเพราะสิ่งที่เราเป็น ถ้าเราเอาแต่รับงาน แล้วหลุดออกมาจากสิ่งที่เราเป็นมากเกินไป สุดท้ายเราก็อยู่ไม่ได้ ทำมันนานๆ ไม่ได้



ค้นหาแรงบันดาลใจในการทำงานมาจากไหน


จริงๆ แล้วเรื่องคอนเทนต์เราได้แรงบันดาลใจมาจากน้องสาวเราเยอะมากๆ บางครั้งเรารู้สึกว่าเราตามไม่ทันเด็กรุ่นใหม่แล้ว แต่น้องสาวเราเป็นคนที่เสพอะไรแบบนี้เยอะ เขาก็จะคอยมาบอกเรา มาเสนอเราตลอด แล้วไอเดียเขาไม่มีหยุด เราก็ได้มาจากเขาหลายอย่าง แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์หรือเรื่องที่เกี่ยวกับการแต่งตัวส่วนมากเราจะเลือกที่เราชอบ เป็นตัวของเราเองเป็นหลักมากกว่า เพราะเราชอบอะไรสบายๆ เท่ๆ มากกว่า

คิดว่าทำไมถึงมีผู้ติดตามจำนวนมาก


เราคิดว่าเราเองก็เป็นคนที่มีหลากหลายมุม มีทั้งมุมหวานๆ มีมุมห้าวๆ ให้เขาได้ติดตามเรื่อยๆ ไม่เบื่อ ส่วนในอีกแง่หนึ่งเราคิดว่า แค่เรื่องภายนอกมันไม่พอที่จะให้คนมาติดตามเรานานๆ มันอยู่ที่เราสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเขาได้ด้วย ทั้งเรื่องเรียน ทั้งเรื่องภาษา แล้วยิ่งทัศนคติก็ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ


เราเชื่อว่า การที่เราพร้อมจะให้พลังในด้านบวกกับคนที่มาติดตามเรา แม้ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามมันก็มีส่วนด้วยที่ทำให้เขา บางครั้งการที่เราได้ช่วยให้คำปรึกษาหรือตอบคำถามในเรื่องที่เราเคยเจอแล้วสามารถช่วยเหลือได้ เราก็พยายามจะทำ เราอาจจะไม่ได้เก่งที่สุดหรือผ่านอะไรมาเยอะแยะ แต่ก็พร้อมที่จะแชร์ประสบการณ์ของ แชร์เรื่องราวที่ทำให้เขาไปต่อได้ด้วย


“สำหรับเราอินฟลูแอนเซอร์มันไม่ใช่แค่เรื่องภายนอก แต่มันอาจจะเป็นเรื่องของการอินสไปร์ด้วย”


มีเทคนิคในการรักษาและเพิ่มผู้ติดตามมาตลอดหลายปียังไงบ้าง


คิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราก็ยินดีที่จะตอบทุกคำถามของทุกคนเสมอ แม้ว่าจะต้องตอบเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ที่เคยตอบมาแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็น่าจะเพราะเราพยายามลงงานอย่างสม่ำเสมอให้คนที่ติดตามเรารู้ว่าเราไม่ได้หายไปไหนนะ

หลังจากมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ชีวิตเปลี่ยนไปไหม


ก็เปลี่ยนไปมาก ทำให้เราต้องระวังตัวมากขึ้น เมื่อก่อนเราอาจจะอยากทำอะไรก็ทำได้ แต่เดี๋ยวนี้ก็ต้องคิดมากกว่าเดิม เมื่อก่อนเวลาออกไปปาร์ตี้เราอยากจะสุดเหวี่ยง อยากจะทำยังไงก็ทำ แต่ว่าพอเราเป็นที่รู้จักมากขึ้น เราก็ต้องระวังสายตาที่จับจ้องมาที่เรา บางครั้งเขาเป็นเด็ก เขาเอาเราเป็นแบบอย่าง เราก็ต้องระวังเผื่อเขาด้วย แต่ก็ต้องพยายามรักษาความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ให้ได้ด้วย

ตลอดเวลาที่ผ่านมามีจุดเปลี่ยนหรือจุดหักเหอะไรในเส้นทางสายนี้บ้าง


มันจะมีบางช่วงที่เราหมดไฟ เราเบื่อมากๆ เพราะเราเหมือนทำแต่อะไรเดิมๆ วนอยู่อย่างนั้น แต่สุดท้ายแล้วแรงบันดาลใจในการทำงานของเราก็คือคนที่ติดตามเรานี่แหละ บางครั้งเวลาเราไม่ได้ทำคลิปนานๆ คนที่เขาติดตามเรา เขาก็จะมาคอยถามใน inbox ว่า เราไม่ทำแล้วหรอ เขารออยู่นะ มันทำให้เรามีแรงที่จะกลับมาทำงานอีกครั้ง



วางแผนอนาคตไว้ยังไงบ้าง


ตอนนี้เพราะว่าพึ่งเรียนจบเราเองก็ยังว่างอยู่ เราคิดว่าเราจะตั้งใจทำงานในยูทูปมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเรามีเวลาไม่พอ แต่เราก็ไม่ได้กดดันตัวเองว่าจะต้องมีเป้าเท่าไร แต่ต่อไปในอนาคตเราก็คงทำงานอื่นๆ ในสายงานที่เราอยากทำไปด้วย เพราะว่างานอินฟลูแอนเซอร์มันอาจจะไม่ได้มั่นคงที่สุดในสายตาเรา แต่ว่าถ้าตรงนี้ที่มีคนรอคอยอยู่แล้วมันยังไปต่อได้ เราก็คิดว่าเราจะทำไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้


ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page