5 เคล็ดลับขายของในทวิตเตอร์ เรื่องที่ใครๆ บอกว่าทำไม่ได้?

Twitter เป็นโซเชียลมีเดียที่ใครๆ ก็เคยบอกว่า “ไม่เหมาะไว้ใช้ขายของ” แต่ปี 2018 โลกของทวิตเตอร์เปลี่ยนไปอย่างมากมายและแม้แต่กลุ่มธุรกิจใหญ่หลายเจ้าก็เลือกที่จะเข้ามาทำการตลาดในทวิตเตอร์ จริงๆ แล้วการขายของในทวิตเตอร์มีเคล็ดลับอย่างไรจึงจะสำเร็จ Gvillage Co-creation hub พร้อมนำเสนอ 5 เคล็ดลับขายดีขายเด็ดในทวิตเตอร์ค่ะ
1.ทำให้ง่ายเข้าไว้ เพราะไม่มีใครอยากอ่านอะไรเข้าใจยาก
“สั้นและง่าย” คือ สองคีย์ที่ต้องท่องจำให้ขึ้นใจสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจกับทวิตเตอร์ เพราะด้วยลักษณะพื้นฐานของแพลตฟอร์มไม่ได้ออกแบบมาให้เล่าอะไรยืดยาวเข้าใจยาก แม้ปัจจุบันจะเพิ่มจำนวนอักขระเป็น 280 ตัวอักษรแล้วและเพิ่มการเล่าเรื่องแบบ Thead เข้ามา แต่อย่างไรก็ตามจากผลการรวบรวมข้อมูลระบุว่า ทวิตเตอร์ที่มีความยากอักษรไม่เกิน 100 ตัวอักษรจะมียอด Engagement มากกว่าทวิตเตอร์ที่มีความยาวมากกว่าหรือน้อยกว่ามากเกินไป ดังนั้น ความพอดีจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญของทวิตเตอร์
นอกจากนั้นทวิตเตอร์เป็นโซเชียลมีเดียที่มีการไหลรวดเร็วไปตามเวลา และผู้ใช้ส่วนมากมักต้องการติดตามเรื่องราวที่ต้องการการอัพเดตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เนื้อหาใน 1 ทวีต จึงควรจะเข้าใจง่ายและสามารถอ่านเข้าใจได้ตั้งแต่รอบแรกที่กวาดสายตาผ่าน
2.อยากได้อะไรบอกตรงๆ อย่าปิดบังซ่อนเร้น
เพราะเขาว่ากันว่าคนในทวิตเตอร์เป็นคนจริง! ดังนั้น ถ้าอยากได้อะไรหรืออยากให้ทำอะไรให้บอกตรงๆ ไม่ว่าจะเป็นกด Retweet กด Love หรือกด Follow เพียงบอกออกไปอย่างตรงไปตรงมาก็จะได้ผลกว่าการอ้อมไปอ้อมมา ผลจากการรวบรวมข้อมูลบอกว่า ทวีตที่มีคำอธิบายอย่างชัดเจนว่าอยากให้ทำอะไร จะมียอดของสิ่งนั้นมากกว่าทวีตที่ไม่ได้ระบุถึงสิ่งนั้นกว่า 4 เท่าเลยนะ!
3.ฝึกเป็นคนแมสๆ ตามกระแสและใช้ Hashtag ให้ดีมีประโยชน์
เพราะทวิตเตอร์เป็นพื้นที่ที่ทุกคนมาแบ่งปันเรื่องราวในกระแสแบบเร่งด่วนอัพเดต ดังนั้น เรื่องไหนที่กำลังเป็นที่พูดถึงก็จะติดท็อปเทรนด์อยู่เสมอ การเข้าไปพูดคุยถึงเรื่องราวในกระแสด้วย Hastag จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำการตลาดในทวิตเตอร์ เพียงแต่ข้อควรระวังก็คือควรจะเลือกเรื่องที่สร้างสรรค์ ใช้มุกตลกอย่างชาญฉลาด เพราะถ้าหากผิดพลาดไปเล่นในเรื่องที่ไม่ควรเล่นเข้าล่ะก็ ออกจะได้ไม่คุ้มเสียสักเท่าไรเลย
นอกจากนั้นการติด Hashtag เองก็มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่คือ ทวีตไหนที่มีการติด Hashtag เกินกว่า 2 อันยอด Engagement ของทวีตนั้นก็จะลดลง ดังนั้น ควรเลือกทวีตที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สุดเพียง 1-2 อันเท่านั้น ด้วยฐานคิดที่ว่ากลุ่มลูกค้าของเรานั้นจะค้นหาด้วยคำหรือ Hashtag ไหน
4.เป็นธรรมชาติและอารมณ์ดี
“สำนวนภาษาแบบคนคุยกัน” คือสำนวนแบบที่เหล่าผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่นชอบ เนื่องจากเป็นพื้นที่แห่งการพูดคุยกันตั้งแต่ต้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์จึงไม่ชอบภาษาที่ทางการหรือสละสลวยเกินจริง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นภาษาสุภาพ มีอารมณ์ขัน หรืออารมณ์อื่นๆ ในทางที่สร้างสรรค์ เช่น ซึ้ง ตลก สนุกสนาน เป็นต้น เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจะสื่อสารด้วย และต้องระวังไม่ให้ดูขายตรงจนเกินไป (นอกจากเป็นทวีตสำหรับขายสินค้าจริงๆ)
รวมถึงการใส่ลูกเล่นในข้อความก็จะทำให้ทวีตของคุณได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ กราฟิก มีม วิดีโอขนาดนั้น GIF หรือการ Live ถ้าเลือกให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการก็จะทำให้ยอด Engagement เพิ่มขึ้นได้ไม่ยากเลย
5.รู้จักฟังบ้าง
การตลาดที่ดีไม่ว่าจะเริ่มทำจากที่ไหนก็ต้องอาศัย “การฟัง” การอ่านฟีดแบ็คที่เข้ามาจากกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจและหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำว่าผลตอบรับต่องานของเราเป็นอย่างไรบ้าง ทำได้ขั้นเบื้องต้นตั้งแต่การตรวจสอบกล่องเมนชั่นและกล่อง Direct Message เป็นประจำ ไปจนถึงการเสิร์ช Hashtag ที่ใช้เป็นประจำ การเสิร์ชชื่อแบรนด์ของเราหรือการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องด้วย